Monday, October 30, 2006


เหตุเกิดจากโทรศัพท์ยามเช้าจากบุคคลที่ไม่ได้ติดต่อมาแสนนานจนนึกว่าจะลืมไปแล้ว อยู่ๆ ก็โทรมาถามว่าเย็นนี้พวกแกว่างกันไหมจะชวนไปร้องเพลงเลี้ยงขอบคุณทริปเมืองจีนคราวก่อน (ซึ่งเราไม่ได้เกี่ยวด้วยเล้ย.. 555) แล้วก็โยนให้เราจอง Major Karaoke ซะงั้น เหมือนกะชั้นเป็นเจ้าแม่ 'เกะ งั้นแหละ ทุก่ทีเราก็เป็นลูกไล่ให้บรรดาเจ๊ๆ แกล่ะนะ แต่งานนี้ขอโยนคืนมั่งเหอะ ก็อยากเจอนะ แต่ขี้เกียจนัดว่ะ ดูมันยุ่งยากยังไงไม่รู้

หลังจากโยนงานเสร็จก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว ไปเดินเที่ยวคลองถมฝั่งธนฯ สบายใจ แล้วก็กลับมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาดับร้อนอยู่บ้าน ตกเย็นถึงเวลานัดแล้ว เรายังคงนั่งงม (ยืนงม) อยู่กับคอมพิวเตอร์เดี้ยงๆ อยู่เลย จนเพื่อนโทรมาถามว่าถึงไหนแล้วถึงจะได้จรลีออกมาตามนัด แล้วก็ไม่วายไปสร้างวีรกรรมให้เค้าอีก ด้วยความว่าเลิกเป็นเด็กแถบสุขุมวิทมาพักใหญ่ เลยไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าเปลี่ยนแปลงไปไหนต่อไหนกันแล้ว จาก Major Thonglor กลายเป็น Major Ekkamai โดยไม่รู้ตัว (ว่าผิด) ทำเอาเพื่อนเกือบหนีกลับบ้านซะแล้ว ในที่สุดก็ไปถึงที่นัดหมายในเวลาไล่เลี่ยกัน จากนั้นก็ถูกประนามไปตามระเบียบ เออ.. ผิดก็ด้ายฟะ..
เอารูปผู้ร่วมขบวนการเก่าๆ มาให้ดู นอกจากแก่ขึ้นแล้วก็ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอะไรกันมากนัก


นำโดยผู้หลงทางโดยการผิดพลาดโดยสุจริตของเรา 555 (ก็ไม่รู้นี่หว่าว่ามี Major Thonglor ด้วยอ่ะ) กลับจากเมืองจีนมาได้เดือนนึง หน้าหมวยเป็นหมีแพนด้าเมืองจีนเลย จริงๆ ก็หมวยอยู่แล้วล่ะ เหอๆๆ


รูปนี้ลูกพี่ใหญ่ เจอกันกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ทั้งรูปร่างหน้าตาและการแต่งตัว ที่เปลี่ยนไปก็มีแต่ลายเสื้อเท่านั้นเองอ่ะ คนอะไรน้อไม่เคยเปลี่ยนไปเล้ยยย อ้วนเหมียนเดิม ;D


รูปนี้สาวหล่อสุด ที่เราก็ยังสับสนว่าตกลงเจ๊แกจะเอาไงแน่?? บางทีก็ทำสาวซะ บางทีก็แมนโคตรๆ แต่ทุกคนมองว่าเค้าแมนนะ หรือว่าเราจะเข้าไม่ถึงหว่า?


อีกคนที่แอบอยู่ข้างหลัง บุคคลไม่ประสงค์จะออกตัว คราวก่อนหวังดีประสงค์ร้าย หลอกเราไปรอบนึง ยังโกรธไม่หายเลย คนอาไรฟะ คิดเอง..เออเอง คราวนี้มาเจอกันอีกทีด้วยมาดอาเสี่ยสุดๆ เสื้อผ้าที่ใส่ size ผู้ชายล้วนๆ เพราะใส่ของผู้หญิงไม่ได้เลย (ถึงใส่ได้ก็น่าจะไม่เข้าอย่างแรง -_-")

Friday, October 13, 2006


ไปถึง8โมงกว่าตามประสาพวก ontime พอไปถึงแล้วไม่มีอะไรทำเลยยืนพิงรถเล่น วันนี้อากาศดีแดดออกทั้งวัน ร้อนโคตรๆ แต่ก็ดีกว่าฝนตกแหละนะ คนอื่นก็ไม่ต่างกันไม่รู้จะทำอะไรเลยยืนจับกลุ่มสุมๆ อยู่ด้วยกัน

ไหว้พระที่วัดชื่ออะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้ รู้แต่ว่าเป็นวัดที่สองอ่ะ แดดร้อนมั่กๆ ตอนนี้ยังคงฟิตจุดธูปจุดเทียนอยู่ จำได้ว่าวัดนี้มีลูกนิมิตร 9 ลูกตั้งอยู่รอบๆ โบสถ์มีการแปะทองรอวันบรรจุลงหลุมด้วย เค้าบอกให้เดินวนตามเข็ม หรือ ทวนเข็มก็ไม่รู้ ถึงถามไปก็เท่านั้นแหละ เพราะก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเค้าหันหน้าไปทางไหนก่อน 555 เพราะงั้นลงรูปนี้แทนดีกว่า สาธุ... ขอให้สมปราถนาทุกประการด้วยเถิด..

อันนี้ไปให้อาหารปลาที่วัดเกาะ ปลาสวายตัวใหญ่ล่ำ ได้ยินเสียงกระซิบว่าถ้าซื้อตามตลาดตัวเป็นร้อย ..แต่นี่มันวัดนะเฟ้ย! มาทำบุญนะไม่ได้มาตกปลาไปทำกับข้าว -_-" แต่จะว่าไปมันก็ตัวใหญ่จริงๆ อ่ะนะ นึกถึงวีรกรรมเมื่อเก่าก่อนไปกินข้าวที่สวนอาหารที่มีเจ้าสวายพวกเนี้ยแหละเยอะมาก เห็นปากมันกว้างๆ เลยเทพรวดรวดเดียวหมดกระป๋องเลย พอมันรู้ตัวมันก็รีบบุ๋มๆๆ ดำน้ำหายไป ตัวไหนตัวนั้นไม่โผล่มาอีกเลย สันนิษฐานว่ามันคงอิ่มมาก ..ก็ถ้าไม่อิ่มคงท้องอืดตายแน่ๆ (ตกลงทำบุญหรือทำบาปกันแน่วะเรา) ซาดิสม์ฉิบ (-_-)

มีอยู่วัดนึงกำลังจะมีการยกโบสก์เก่าขึ้น เค้ามีการเดินลอดโบสถ์ด้วย ชื่อแปลกๆ วิธีก็แปลกด้วย เค้าให้เดินลงบันไดแล้วก็ลอดตัวโบสถ์เก่ามาขึ้นอีกฝั่งหนึ่ง ต้องเดินสามรอบและมีการสวดอธิษฐานด้วย เราก็สวดผิดๆ ถูกๆ อ่ะ ผิดจังหวะมั่งก็มี พื้นดินร้อนมากต้องเดินเท้าเปล่าด้วย

วันนี้เป็นวันตักบาตรเทโว มีการทำบุญกันใหญ่โต ชาวบ้านที่มาทำบุญก็เอาของใส่บาตรเยอะมากๆ เดินเข้าไปในโบสถ์เจอของกองอยู๋อย่างกะซุปเปอร์มาเก็ตแน่ะ แอบคิดไปว่าถ้าติดอยู่ในนั้นคงอยู่ได้เป็นเดือนโดยไม่อดตายแน่ๆ มีทั้งมาม่า นมกล่อง น้ำผลไม้ ปลากระป๋อง และสารพัดของที่นิยมเอามาใส่บาตรอ่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะมัวแต่คิดเฟื่องอยู่ ^_^

นี่วัดอะไรก็ไม่รู้ มุมมองเอียงๆ ก็สวยดีเนอะ ดูจากรูปแล้วฟ้าสวยมาก แล้ววันนั้นเหงื่อชุ่มเลยง่ะเหม็นเหงื่อตัวเองอย่างแรง กลับมาตัวดำเลยเรา ภาพสวยๆ กับแดดแรงๆ เป็นของคู่กันจริงๆ เห็นแดดจ้าทีไรถ่ายรูปสวยทุกทีแต่ไอ้คนถ่ายเนี่ยไม่อยากนึกถึงอารมณ์นั้นเลย มันร้อนสุดๆ (แต่รูปนี้เราก็ไม่ได้ถ่ายเองหรอกนะ ไม่มีกล้องดีๆ)

ก่อนกลับแวะชมสวนกล้วยไม้เลยได้ภาพดอกไม้สวยๆ มาชม (แม้ว่าจะไม่ใช่กล้องเราก็เหอะ 555) ว่าก็ว่าเหอะ ถ้ามาอยู่กะเราคงไม่ได้สวยอย่างนี้แน่ๆ อย่างเร็วสวยได้อีก 1 อาทิตย์ ไม่คุ้มค่าตัวแน่ๆ


รูปรวมก่อนแยกย้ายสลายตัว